6 วิธีหาพนักงานพริตตี้สปา
เพื่อตอบคำถาม..
เพิ่งเปิดร้านพริตตี้สปา จะหาน้องทำงานยังไง?
1. ลงโฆษณาในเว็บงานเฉพาะ ลงประกาศตามเว็บรับสมัครงานสำหรับสาวๆโดยเฉพาะเจาะจง แน่นอนว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด การทำธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ต้องลงทุนทั้งสิ้น วิธีนี้จึงถือว่าเป็นวิธีการที่ง่ายในการลงทุน ได้มืออาชีพเฉพาะด้านมาช่วยให้การหาพนักงานง่ายขึ้น ส่วนใหญ่เว็บเฉพาะทางก็จะแนะนำและทำให้ทุกขั้นตอน
ค่าใช้จ่าย
ค่าโฆษณาตามตำแหน่งที่ลง (วิธีคำนวณความคุ้ม/ไม่คุ้ม)
ข้อดี
ไม่ต้องทำเอง
โอกาสที่จะได้น้องๆมีสูง เพราะเป็นเว็บรับสมัครงานโดยเฉพาะ
ข้อเสีย
มีค่าใช้จ่าย
2. ทำเว็บประกาศรับสมัครพนักงานเอง การมีเว็บไม่ยาก แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย จ้างคนทำ จ้างคนดูแล และ ค่าเช่าพื้นที่เว็บรายปี , เช่าโดเมนเนมรายปี ดูเหมือนจะง่ายแต่ไม่จบแค่นั้น มีเว็บแล้วก็ต้องทำการตลาดเพื่อนให้เว็บติดอันดับการค้นหา ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก
ค่าใช้จ่าย
ค่าทำเว็บ
ค่าดูแลเว็บ
ค่าเช่าพื้นที่เว็บ
ค่าเช่าโดเมนเนม (เพื่อความน่าเชื่อถือ เช่น www.prettynightjob.com เป็นต้น)
ค่าทำการตลาดเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาของสาวๆ
ข้อดี
ได้ทำด้วยตัวเอง
ควบคุมได้ด้วยตัวเอง
ข้อเสีย
มีค่าใช้จ่าย หลายอย่าง
3. หาโมเดลลิ่งส่งเด็ก วิธีนี้หาได้ไม่ยาก เพราะโมเดลลิ่งมืออาชีพมากมายที่รอส่งเด็กอยู่ แต่ก็ต้องสร้างแรงจูงใจให้โมฯอยากส่งน้องให้เรามากกว่าร้านอื่น เพราะโมฯส่วนใหญ่ก็จะส่งร้านที่มีผลประโยชน์มากที่สุดก่อน นอกเหนือจากผลประโยชน์เยอะกว่าแล้ว ร้านก็ต้องตรงไปตรงมา ชัดเจน เพื่อซื้อใจโมเดลลิ่ง
ค่าใช้จ่าย
กำไรค่ารอบที่ลดลง
ข้อดี
ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรจนกว่าจะได้กำไร ก็แบ่งให้โมฯ
ข้อเสีย
โมฯมีร้านส่งเยอะ
โมเดลลิ่งส่วนใหญ่เลือกส่งร้านที่ หักในส่วนของร้านเป็นค่าโมฯ ไม่ค่อยส่งร้านที่หักจากเด็กเป็นค่าโมฯ ทำให้ร้านขาดกำไรในส่วนนี้ไป
โมฯเลือกส่งร้านที่ให้ผลประโยชน์มากที่สุด ชัวร์ที่สุด (ร้านที่เพิ่งรู้จักจึงต้องรอนาน)
4. ใช้สื่อโซเชียล เช่น Facebook , IG หรือ แอพสำหรับค้นหาเพื่อนออนไลน์ วิธีนี้ถ้าหากเป็นคนที่เล่นโซเชียลอยู่แล้วก็แค่ อาจจะต้อง หาวิธีตามหา จีบน้องๆที่อยากให้มาทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะสมัยนี้คนหลอกกันทางโซเชียลค่อนข้างเยอะ แต่ถ้ามีเวลาก็ต้องลองดู
ค่าใช้จ่าย
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย (หากทำเอง หรือ ให้พนักงานที่จ้างอยู่แล้วทำ)
ข้อดี
ไม่มีค่าใช้จ่าย
ข้อเสีย
ใช้เวลาเยอะ
ต้องใช้ทักษะในการเข้าหา โน้มน้าว เยอะนิสนึง
เห็นผลช้า เพราะเป็นการคุยรายบุคคล อาจต้องคุยหลายๆคนในเวลาเดียวกัน
5. แจกนามบัตร จ้างคนเดินตามห้าง หรือ ย่านคนหน้าตาดีเดิน วิธีนี้เป็นแบบเดียวกับพวกแมวมองต่างๆ ก็ต้องแต่งตัวดีๆหน่อย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และ ลงทุนทำนามบัตรที่ดูดีมีมาตรฐาน และมีข้อมูลร้าน ให้ชัดเจน
ค่าใช้จ่าย
ค่านามบัตร
ค่าจ้างคนแจกนามบัตร
ข้อดี
ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก
ข้อเสีย
ใช้เวลา
โอกาสเห็นผลน้อย (เพราะเป็นการหว่าน)
ควบคุมยาก หากคนแจก แจกไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายก็ยากจะเห็นผล
6. แจกใบปลิว วิธีนี้จะเป็นแบบหว่าน คล้ายแจกนามบัตร แต่ต้นทุนและการกระจายอาจได้มากกว่าเพราะใบปลิวมีราคาถูกกว่านามบัตร แจกง่ายกว่า ทำใบปลิว แล้วจ้างคนแจกตามห้าง หรือย่านที่คาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะมาเดิน ให้ได้มากที่สุด อาจต้องควบคุมคนแจกนิดนึงว่าให้แจกเฉพาะผู้หญิงวัยรุ่น หน้าตาดีเท่านั้น เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน คนแจกส่วนใหญ่อยากรีบแจกรีบหมด เราต้องหาวิธีควบคุมให้ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนที่ไว้ใจได้ไปแจกแทนการจ้างคนอื่น
ค่าใช้จ่าย
ค่าใบปลิว
ค่าจ้างคนแจกใบปลิว
ข้อดี
ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก
ข้อเสีย
ใช้เวลา
โอกาสเห็นผลน้อย (เพราะเป็นการหว่าน)
ควบคุมยาก หากคนแจก แจกไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายก็ยากจะเห็นผล
ทุกวิธีมีต้นทุนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะค่าใช้จ่าย หรือว่า เวลาที่ต้องใช้ในการหาน้องๆ เพื่อมาทำงานที่ร้าน เมื่อลงทุนเปิดร้านแล้ว เราก็ต้องตีการลงโฆษณาเป็นต้นทุนด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่เราจะรู้ว่าวิธีไหนเราได้ประโยชน์มากสุดก็คงต้องลองทุกวิธีและทำสถิติไว้ หรือถ้ามีงบก็หว่านไปก่อนแล้วมาดูผลประกอบกิจการเอาว่ามีกำไรหรือไม่
เว็บพริตตี้ไนท์จ๊อบ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบกิจการทุกท่านให้กิจการเจริญรุ่งเรืองมีผลกำไรมากมาย หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจทุกท่าน
#สนใจลงโฆษณาหาพนักงานสาวสวย คลิก >> พริตตี้ไนท์จ๊อบ
LINE : @prettynightjob
Comments